SoundBar คืออะไร? ดียังไง!? พร้อมประวัติความเป็นมา

Home » เกร็ดความรู้ (Tip & Trick) » SoundBar คืออะไร? ดียังไง!? พร้อมประวัติความเป็นมา

Estimated reading time: 4 นาที

วันนี้ผมขออาสาพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ 1 ในประเภทลำโพงภายในบ้านยอดฮิต “SoundBar (ซาวด์บาร์)” ลำโพงที่จะช่วยยกระดับคุณภาพ และเติมเต็มมิติของเสียงให้กับทุกความบันเทิงภายในบ้านของคุณให้ดียิ่งขึ้น ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกกันอย่างละเอียดว่า SoundBar คืออะไร และมีที่มาที่ไปอย่างไร? หากคุณคือคนที่กำลังตัดสินใจที่จะเลือกซื้อซาวด์บาร์ บทความนี้จะเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมกันเลยครับ ~

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าในปัจจุบัน SoundBar หรือลำโพงซาวด์บาร์ ได้เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคในหมวดความบันเทิงภายในบ้าน(Home Entertainment) ไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่จำเป็นต้องเลือกระหว่าง ชุดลำโพง Home Theater สำหรับรับชมภาพยนตร์ภายในบ้าน หรือลำโพง Hi-Fi สำหรับฟังเพลง ลำโพงซาวด์บาร์ได้แทรกตัวเข้ามาที่ช่องว่างระหว่าง การฟังเพลง และรับชมภาพยนตร์ภายในบ้านได้อย่างลงตัว แล้วเจ้า SoundBar ที่ว่านี่มันคืออะไร? มีประโยชน์ยังไง และเหมาะกับการใช้งานแบบใด?

SoundBar คืออะไร?

SoundBar หรือลำโพงซาวด์บาร์ คือ ลำโพงที่มีลักษณะเป็นตู้ที่มีความกว้างมากกว่าความลึก ถูกออกแบบ และพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานร่วมกับ ทีวี เพื่อยกระดับคุณภาพ และมิติของเสียง ทั้งในด้านการฟังเพลง และการรับชมภาพยนตร์ เป็นลำโพงสำหรับใช้งานเพื่อความบันเทิงภายในบ้าน(Home Entertainment)โดยเฉพาะ

โดยส่วนมากจะเป็นลำโพงแบบ Full-Range(ตอบสนองเต็มช่วงความถี่) จะประกอบไปด้วยดอกลำโพงหลากหลายแบบ และขนาด ประกอบรวมกันอยู่ภายในลำโพงซาวด์บาร์เพียงตัวเดียว ตัวตู้ลำโพงซาวด์บาร์จะมีความสูงที่ไม่มากนัก จึงมักถูกจัดวางอยู่ที่ด้านล่างของทีวี เพื่อทำหน้าที่ในการขยายเสียงให้กับทีวี

BOSE Smart Ultra Soundbar ลำโพงซาวด์บาร์ 5.0 มาพร้อม Amazon Alexa ฿37,900 (รวม VAT 7% แล้ว)

Soundbar จำเป็นมั้ย?

คำตอบของคำถามที่ว่า “Soundbar จำเป็นมั้ย?” ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบ หลงไหล หรือจริตในการฟังของแต่ละบุคคล ผู้ที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุด คือตัวผู้ใช้งานเอง แต่ถ้าหากจะถามผม สำหรับมุมมองของผม ผมมองว่าจำเป็น

ด้วยความที่ทีวีในยุคปัจจุบันถูกออกแบบให้มีขนาดที่บางขึ้น และบางขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ได้รับผลกระทบตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เสมือนเงาตามตูด คือเรื่องของ “เสียง” ก็ทีวีมันบางซะขนาดนั้น จะให้เอาดอกลำโพงไปยัดไว้ที่ไหนละครับพี่ เหล่าผู้ผลิตเครื่องเสียงได้เล็งเห็นช่องว่างในจุดนี้ จากนั้นจึงเอามือลูบปาก แล้วคิดในใจว่า”เสร็จโจร”(หยอกๆ ฮ่าๆ) ได้ทำการออกแบบลำโพงสำหรับใช้งานร่วมกับทีวี ผ่านการพัฒนา และต่อยอดกันมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เกิดเป็นลำโพงรูปแบบใหม่ที่ใช้ชื่อว่า “SoundBar”

หากคุณต้องการรับชมรายการทีวี หรือภาพยนต์ การที่คุณมีซาวด์บาร์ดีดีสักตัวไว้ใช้งาน จะช่วยยกระดับประสบการณ์ในการรับชมทุกสิ่งอย่างผ่านทีวี ไม่ว่าจะเป็น ข่าว ละคร ทอล์คโชว์ ภาพยนต์ เรียกว่าทุกสิ่งอย่างจริงๆ ซึ่งจุดที่ทำให้ซาวด์บาร์ได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง คือความง่ายในการติดตั้ง และใช้งาน

ข้อดีของ Soundbar

อีก 1 คำถามที่มักจะพบเจอกันเป็นประจำ Soundbar ดียังไง? ข้อดีของ Soundbar มีอะไรบ้าง? เพื่อตอบคำถามเหล่านั้น ผมได้ทำการรวบรวมข้อดีของ Soundbar มาไว้เป็นหัวข้อๆ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ ดังนี้ครับ

ติดตั้ง ใช้งานง่าย
คุณภาพเสียงที่ดีกว่าลำโพงจากทีวี
ให้มิติของเสียงแบบรอบทิศทาง
ขนาดตัวเล็ก จัดวางได้ง่าย ประหยัดพื้นที่
ราคาไม่แพง

ติดตั้ง และใช้งานง่ายสุดๆ

ด้วยความที่ซาวด์บาร์เป็นลำโพงที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับความบันเทิงภายในบ้าน แน่นอนว่าผู้ใช้งานหลักๆ คือ ผู้ใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น เด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ เพราะฉะนั้นซาวด์บาร์จึงถูกออกแบบมาบน พื้นฐานของความง่าย ทั้งในแง่ของการติดตั้ง และการใช้งาน ซาวด์บาร์บางตัวคุณสามารถเชื่อมต่อใช้งานด้วยสาย HDMI เพียงแค่เส้นเดียวก็พร้อมใช้งานในทันที

คุณภาพเสียงที่ดีกว่าลำโพงจากทีวี

อย่างที่ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่าทีวีในยุคปัจจุบัน นั้นแข่งกันเล็ก แข่งกันบาง ลำโพงที่ Built-In มากับตัวทีวีจึงมีคุณภาพที่ต่ำลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซาวด์บาร์ เป็นลำโพงที่เข้ามาเติมเต็มจุดอ่อนของทีวีในยุคนี้ได้อย่างลงตัว

ให้มิติของเสียงแบบรอบทิศทาง

ซาวด์บาร์แทบทุกตัวในปัจจุบัน จะให้มิติของเสียงแบบรอบทิศทาง ซึ่งไอเจ้าระบบเสียงรอบทิศทางก็ดันเป็นหัวใจสำคัญของการรับชมภาพยนต์ซะด้วย โดยที่ซาวด์บาร์แต่ละรุ่นก็จะมีชาแนลระบบเสียงรอบทิศทางที่แตกต่างกันไป

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ตัวเลขชาแนล

ขนาดตัวเล็ก จัดวางได้ง่าย ประหยัดพื้นที่

อีก 1 ข้อดีสำคัญของซาวด์บาร์ที่ผู้คนมักจะมองข้ามกันไป “ขนาดตัวที่เล็ก” หากคุณคือคนที่หลงไหลในการรับชมภาพยนต์ ด้วยระบบเสียงแบบรอบทิศทางในยุคก่อน คุณจำเป็นที่จะต้องมีลำโพงวางอยู่ทั่วห้อง ต้องเดิน และเก็บสายไฟด้วยความยุ่งยาก แต่คุณจะไม่พบปัญหาเหล่านั้นกับซาวด์บาร์ ซาวด์บาร์บางตัวแค่เสียบ HDMI และ Power ก็พร้อมเสิร์ฟระบบเสียงรอบทิศทางในทันที

จัดเต็มคุณภาพเสียงด้วยงบหลักหมื่น

ข้อดีที่น่าจะสำคัญ และเป็นจุดที่ทำให้ซาวด์บาร์ ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คงหนีไม่พ้นราคา ที่เมื่อนำไปเทียบกับลำโพงโฮมเธียร์เตอร์สักชุด คุณจะรู้สึกได้ทันทีว่า ซาวด์บาร์นี่มันถูกจริงๆ

ถ้าอ่านมาถึงจุดนี้เพื่อนๆ น่าจะเข้าใจกันแล้วว่า ซาวด์บาร์ คืออะไร? จำเป็นมั้ย และมีข้อดีอย่างไร ถัดจากนี้ไปจะเป็นประวัติความเป็นมาของซาวด์บาร์ โดยที่ผมจะขออนุญาติเล่าเป็นประวัติโดยย่อ เอาแค่พอเข้าใจ และรู้จักกับซาวด์บาร์กันมากขึ้น ถ้าพร้อมแล้วไปต่อกันเลยครับ ~

ประวัติความเป็นมาของ Soundbar

อย่างที่ได้บอกกันไปว่าในปัจจุบันซาวด์บาร์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ ในอุตสาหกรรมความบันเทิงภายในบ้าน ชนิดที่ว่าเกาะติดอยู่กับทีวีแทบทุกบ้าน จะเอาไม้มางัดก็งัดไม่ออก เจ้าซาวด์บาร์ตัวร้ายนี่มันเกิดมาได้ยังไง และมีความเป็นมาอย่างไรกันแน่ ไปต่อกันเลยครับ

ก่อนจะมาเป็นซาวด์บาร์

ถ้าจะพูดถึงจุดเริ่มต้นของซาวด์บาร์ ต้องย้อนกลับไปถึงช่วงปี 1998 เมื่อ Altec Lansing ได้เปิดตัว ADA 106 ลำโพงแบบมัลติชาแนล ที่มาในฉายาสุดเท่อย่าง “Voice of the Digital Theatre” นับเป็นก้าวแรก และก้าวสำคัญที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของลำโพง Soundbar

Altec Lansing ADA 106 เป็นลำโพง “SoundBox” แบบ All-In-One ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อเสียงที่คมชัด และเต็มไปด้วยรายละเอียด พร้อมทั้งให้เสียงเบสที่ทรงพลังด้วยซับวูฟเฟอร์แยกอิสระ เป็นลำโพงที่จะให้เสียงแบบ Stereo(ถ้าเป็นในปัจจุบันน่าจะเรียกว่าเป็น 2.1) พร้อมรองรับระบบเสียงรอบทิศทางสุดล้ำในยุคนั้นอย่าง Dolby Pro-Logic และ AC3 Surround Sound

ในเวลาต่อมา ADA 106 จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลากหลายแบรนด์ชั้นนำด้านเครื่องเสียง เริ่มหันมาจับจ้องนำ Concept และแนวคิดจาก ADA 106 ไปพัฒนาต่อยอด จนกลายเป็น SoundBar อย่างที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้

จุดเริ่มต้นออกสตาร์ทของ Soundbar

1 ในการนำแนวคิดไปพัฒนาต่อยอดที่ดูประสบความสำเร็จ และมีความใกล้เคียงกับซาวด์บาร์ในปัจจุบันมากที่สุดต้องยกให้ Zvox 315 ลำโพง Sound Console ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2003 โดยหนุ่มเนิร์ดอย่าง Tom Hannaher ผู้ที่เป็นเจ้าของบริษัท Zvox ซึ่ง ณ ขณะนั้นมีตัวเขาเองเป็นพนักงานเพียงคนเดียวของบริษัท! เป็นลำโพงตัวแรกที่ให้เสียงรอบทิศทางแบบ 5.1 ด้วยลำโพงเพียงตัวเดียว ให้เสียงเบสที่น่าพึงพอใจในระดับนึง โดยไม่จำเป็นต้องมีซับวูฟเฟอร์เสริม

โดยที่ผมขอนับ Zvox 315 เป็นจุดออกสตาร์ทของลำโพง SoundBar ที่จะค่อยๆ วิ่งทำความเร็วไปเรื่อยๆ และจะได้รับความนิยมแซงหน้า HTiB (Home Theatre in the Box หรือระบบลำโพงโฮมเธียร์เตอร์) ในที่สุด

ขอบคุณข้อมูล และภาพประกอบจาก Crunch Reviews และ Cnet

บทบาทของ SoundBar ในยุคปัจจุบัน

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำอย่างรวดเร็ว SoundBar สามารถที่จะเชื่อมต่อ และใช้งานแบบไร้สายผ่าน บลูทูธ และ Wi-Fi ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และความสะดวกในการใช้งาน ซาวด์บาร์บางรุ่นมีเทคโนโลยีชั้นนำที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์ในการรับชมภาพยนต์ของคุณให้ได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกว่าที่เคย เช่น Dolby Atmos, DTS:X เป็นต้น

ในปัจจุบัน SoundBar เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่ผู้ใช้งานมักจะนึกถึง เมื่อต้องการยกระดับคุณภาพเสียงให้กับความบันเทิงภายในบ้าน ด้วยรูปแบบการใช้งานที่ยืดหยุ่น และความง่ายในการติดตั้งใช้งาน มีหลากหลายแบรนด์ หลากหลายรุ่นให้เลือกซื้อ ทั้งราคาถูก และราคาแพง

สรุป

ลำโพง Sound Bar

86 สินค้า

หากคุณอ่านมาถึงจุดนี้ คุณคงได้คำตอบสำหรับทุกคำถามเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น SoundBar คืออะไร? จำเป็นมั้ย และมีข้อดีอย่างไร ไม่แปลกใจว่าทำไมในปัจจุบันซาวด์บาร์ถึงค่อยๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น และคาดว่าจะมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ ได้บ้างไม่มากก็น้อย ในบทความถัดไป ผมจะมาแนะนำลำโพงซาวด์บาร์ที่คุ้มค่าที่สุดในปี 2023 ไว้พบกันใหม่ในบทความหน้า วันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ ~

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

ลำโพง Soundbar คืออะไร ?

SoundBar หรือลำโพงซาวด์บาร์ คือ ลำโพงแบบ Full-Range(ตอบสนองเต็มช่วงความถี่) ที่ประกอบไปด้วยดอกลำโพงหลากหลายแบบ และขนาด ประกอบรวมกันอยู่ภายในลำโพงซาวด์บาร์เพียงตัวเดียว มีลักษณะเป็นตู้ที่มีความกว้างมากกว่าความลึก และมีความสูงที่ไม่มากนัก ถูกออกแบบ และพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานร่วมกับ ทีวี เพื่อยกระดับคุณภาพ และมิติของเสียง ทั้งในด้านการฟังเพลง และการรับชมภาพยนตร์ เป็นลำโพงสำหรับใช้งานเพื่อความบันเทิงภายในบ้าน(Home Entertainment)โดยเฉพาะ

ลำโพง SoundBar จำเป็นมั้ย ?

ลำโพง SoundBar ดียังไง ?