Overview | ภาพรวมสินค้า

สานต่อความสำเร็จจากหูฟังตัวท็อปของ Sony อย่าง WF-1000XM3 ที่ในรุ่นนี้จะเป็น Gen 4 ของหูฟังในซีรีย์นี้ โดยฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดในรุ่นก่อน อย่าง ระบบตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancelling) มาในรุ่นนี้ ก็ยังอัพเกรด และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนที่ดียิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อน ด้วยชิพตรวจจับเสียงรบกวน 2 ตัว ที่ทำงานร่วมกับ ชิพประมวลผลเสียง V1 (Integrated Processor V1) ช่วยให้ได้ระบบตัดเสียงรบกวนที่

พร้อมท้าชนกับหูฟังตัดเสียงรบกวน ทุกตัว บนโลก!

หูฟัง Sony WF-1000XM4 จะมาด้วยดีไซน์แบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ตัวหูฟังไปจนถึงเคส โดยตัวหูฟังในรุ่น Mark 3 จะมีรูปทรงเป็นวงรี แต่ใน Mark 4 จะมาในรูปทรงแบบวงกลม ที่ช่วยให้สวมใส่ได้กระชับพอดีกับรูหูมากยิ่งขึ้น ช่วยให้สวมใส่ได้สบาย แม้จะใช้งานเป็นระยะเวลายาวนาน โดยวัสดุตัวหูฟังจะเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ภายนอกกันเลย ต้องยอมรับเลยว่าดีไซน์หูฟังของรุ่น WF-1000X Mark 4 ผ่านการคิดและออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน สมกับการรอคอยมากๆ ครับ

ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การฟังที่ยอดเยี่ยม ด้วย หูฟังแบบไร้สาย ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่มาพร้อม ระบบตัดเสียงรบกวนสุดอัจฉริยะ ที่นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการหูฟังตัวท็อป อีกครั้ง!

ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ในทุก “ไลฟ์สไตล์”

Active Noise Cancelling
ระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด

ตัวหูฟังได้รับการออกแบบและพัฒนายกเครื่องใหม่ในแทบทุกด้าน โดยสิ่งที่ท้าทายที่สุด ดูจะเป็นเรื่องของ ระบบตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancelling | ANC) ที่ต้องยอมรับจริงๆ ว่า ANC ของรุ่น WF-1000XM3 ก็จัดว่าเป็นหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวน ที่สำนักรีวิวหลายๆ ที่ต่างยกให้เป็นหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวนดีที่สุด ณ ขณะนั้น

ถึงแม้ว่า WF-1000XM3 จะมีระบบการตัดเสียงรบกวนดีแค่ไหนก็ตาม ทาง SONY ก็ยังสามารถออกแบบ WF-1000XM4 ให้ออกมามี Active Noise Cancelling ที่ดีขึ้นกว่า Mark 3 ได้อีก โดยหูฟังในรุ่น Mark 4 จะมาพร้อม ชิพ ตรวจจับเสียงรบกวน 1 คู่ (Dual Noise Sensor Microphones) โดยจะทำงานร่วมกันกับ ชิพประมวลผล V1 (Integrated Processor V1) ช่วยให้ได้ระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด

SONY WF-1000XM4 พร้อมท้าชนกับหูฟังไร้สายทุกตัวบนโลกใบนี้!

Adaptive Sound Control
ปรับเสียงให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์แบบอัตโนมัติ

เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยปรับการทำงานของระบบตัดเสียงรบกวนของตัวหูฟัง โดยจะแบ่งการทำงานออกเป็น 3 โหมดหลักๆ

• Travelling : เมื่อคุณสวมใส่ตัวหูฟัง และกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว ตัวหูฟังจะทำการ Detected และทำการปรับโหมดเป็น Travelling โดยอัตโนมัติ ซึ่งในโหมดนี้ จะเป็นโหมดที่ เปิดการตัดเสียงรบกวนแบบ เต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณได้เอ็นจอยไปกับเสียงเพลง หรือชมภาพยนต์ ในระหว่างการเดินทาง
• Waiting : เมื่อคุณสวมใส่ตัวหูฟัง และไม่ได้มีการขยับตัวในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ตัวหูฟังจะทำการ Detected และปรับโหมดเป็น Waiting โดยอัตโนมัติ ซึ่งในโหมดนี้ จะเป็นโหมดที่ ลดการตัดเสียงรบกวนภายนอกลงในระดับนึง เพื่อที่จะให้คุณได้ยินเสียงประกาศ หรือเสียงผู้คนที่อาจจะเข้ามาสนทนากับคุณ
• Walking : เมื่อคุณสวมใส่ตัวหูฟังในขณะที่กำลังเดินอยู่ตามท้องถนน ตัวหูฟังก็จำทำการ Detected และปรับโหมดเป็น Walking โดยอัตโนมัติ ซึ่งในโหมดนี้ จะเป็นโหมดที่ ลดการตัดเสียงรบกวนภายนอกลงมา เพื่อให้คุณได้ยินเสียงบรรยากาศรอบๆ ตัว ลดความเสี่ยงที่คุณอาจจะเกิดอุบัติเหตุ ตามท้องถนน

นอกจากนี้คุณยังสามารถ เลือกปรับตั้งค่า ระบบตัดเสียงรบกวน ในแต่ละโหมดอย่างละเอียด เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของคุณได้ ผ่านแอพพลิเคชั่น Headphones Connect ได้อีกด้วย

Integrated Processor V1
ใช้ชิพประมวลผล ทำงานร่วมกับ ANC และ บลูทูธ

WF-1000XM4 เป็นหูฟังไร้สายตัวแรกของโลกที่รองรับการเล่น ” ไฟล์เสียงคุณภาพสูง (Hi-res Audio) แบบไร้สาย ” ด้วยชิพประมวลผล V1 (Integrated Processor V1) ที่จะทำงานร่วมกับ

• ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) : ช่วยให้ตัดเสียงรบกวนได้ดี และฉลาดมากยิ่งขึ้น
• บลูทูธ : ช่วยประมวลผลการรับส่ง-ข้อมูลผ่านบลูทูธแบบ LDAC Codec
• คุณภาพไฟล์เสียง : ช่วยปรับปรุงคุณภาพไฟล์เสียงที่ลดทอนไปจากการบีบอัด ระหว่างการรับ-ส่งข้อมูล DSEE Extreme

นอกจากนี้ยังทำให้ตัวหูฟังใช้พลังงานที่น้อยลง ช่วยให้ทาง Sony สามารถลดขนาดของหูฟัง และเคสให้มีขนาดที่เล็กลงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 40%

Beamforming Mics
ไมโครโฟนรับเสียงแบบ Beamforming

WF-1000XM4 จะเลือกใช้ไมโครโฟนรับเสียงแบบ Beamforming นอกจากนี้ยังมีเซนเซอร์ Bone-Conduction ที่จะคอยตรวจจับแรงสั่นจากเสียงพูดของคุณ ช่วยให้ได้เสียงพูดที่ คม ชัด ใส แม้ในสถานที่ที่มีเสียงรบกวนมากมายก็ตาม

IPX4 & Battery
กันน้ำตามมาตรฐาน IPX4 และแบตเตอรี่ใช้งานยาวนานตลอดทั้งวัน

WF-1000XM4 จะรองรับการกันน้ำตามมาตรฐาน IPX4 ช่วยให้คุณสามารถสวมใส่ไปออกกำลังกาย ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเหงื่อหรือฝนจะทำให้หูฟังของคุณพัง และแบตเตอรี่ที่ตัวหูฟังสามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน ด้วยแบตเตอรี่หูฟังที่ใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมง และรีชาร์จเพิ่มผ่านเคสได้อีก 2 ครั้ง (16 ชั่วโมง)